การประมาณการกำไรสุทธิและการยื่นแบบแสดงรายการ ภงด.51 และประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่าร้อยละ25 ของกำไรสุทธิ

การประมาณการกำไรสุทธิและการยื่นแบบแสดงรายการ ภงด.51 และประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่าร้อยละ25 ของกำไรสุทธิ

               เรื่อง  ภาษีอากรเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับเจ้าของกิจการ   ,  ผู้ทำบัญชี  หรือ  เจ้าหน้าที่บัญชีเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากขาดความรู้ความเข้าใจ  หรือ  ขาดการติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายภาษีอากร  บางครั้งอาจจะทำให้ กิจการเสียผลประโยชน์ได้ ทั้งๆ  ที่ไม่ควรจะเสียไป  ซึ่งการประมาณการกำไรสุทธิ และการยื่นแบบแสดงรายการ ภงด.51 ก็ เช่นเดียวกันที่เจ้าของกิจการ  ,  ผู้ทำบัญชี หรือ  เจ้าหน้าที่บัญชี ต้องมีความเข้าใจ  และทราบถึงข้อกฎหมายต่างๆ  ที่เกี่ยวข้อง ด้วย

               เมื่อธุรกิจจดทะเบียนเป็นบริษัท  หรือ  ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล  ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำหน้าที่ในการเสียภาษี เงินได้นิติบุคคลในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี โดยในแต่ละปี  จะต้องเสีย  2  ครั้ง  โดยในช่วงกลางปี  จะเป็นการยื่นแบบแสดง รายการ  ภงด.  51  และช่วงปลายปี  จะเป็นการยื่นแบบแสดงรายการ  ภงด.  50  โดยการนำรายได้มาหักรายจ่าย  และค่า ลดหย่อนอื่นๆ  เพื่อแสดงยอดกำไรสุทธิประจำงวด  จากนั้นนามาคำนวณตามอัตราภาษีตามแต่ประเภทของกิจการ  ตาม อัตราที่กฎหมายกำหนด

1.   ภงด. 51คืออะไร

               ภงด.  51  คือ  แบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล  ซึ่งใช้กับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี  จากการประมาณการกำไรสุทธิหรือจากกำไรสุทธิ  กรณีเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์  บริษัทเงินทุน  บริษัทหลักทรัพย์  หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์

2. กำหนดระยะเวลำกำรยื่นแบบภงด.51

               กำหนดระยะเวลาการยื่นแบบ  ภงด.  51  นั้น  ให้ดูจากรอบระยะเวลาบัญชี โดยจะต้องชำระภายใน 2  เดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา  6  เดือน  นับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี  เช่น

รอบระยะเวลาบัญชีระหว่างวันที่วันสุดท้ายของรอบ ระยะเวลา 6 เดือนต้องยื่นภายในวันที่
รอบระยะเวลาบัญชีปกติ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม30 มิถุนายน
31 สิงหาคม
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง) 1 กุมภาพันธ์ – 31 มกราคม31 กรกฎาคม
30 กันยายน
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 มีนาคม – 28 กุมภาพันธ์ 31 สิงหาคม31 ตุลาคม
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 เมษายน – 31 มีนาคม 30 กันยายน30 พฤศจิกายน
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 พฤษภาคม – 30 เมษายน31 ตุลาคม31 ธันวาคม
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 มิถุนายน – 31 พฤษภาคม30 พฤศจิกายน31 มกราคม
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 กรกฎาคม – 30 มิถุนายน31 ธันวาคม28 กุมภาพันธ์
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง) 1 สิงหาคม – 31 กรกฎาคม31 มกราคม31 มีนาคม
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 กันยายน – 31 สิงหาคม28 กุมภาพันธ์ 30 เมษายน
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 ตุลาคม – 30 กันยายน31 มีนาคม31 พฤษภาคม
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 พฤศจิกายน – 31 ตุลาคม30 เมษายน30 มิถุนายน
รอบระยะเวลาอื่น (ตัวอย่าง)1 ธันวาคม – 30 พฤศจิกายน31 พฤษภาคม31 กรกฎาคม

***สําหรับกิจการที่รอบระยะเวลาบัญชีไม่ใช่วันแรกของเดือน ก็ใช้การคํานวณตามที่กําหนด

3.อัตราคํานวณภาษี

ลําดับ
ที่
คําอธิบายการใช้อัตราในการคํานวณภาษี กําไรสุทธิ อัตราภาษี ร้อยละ
1 กรณีทั่วไป ตาม พ.ร.บ. (ฉบับที่ 42) พ.ศ. 2559 ทั้งจํานวน 20
2 (2.1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนที่ชําระแล้วในวันสุดท้ายของ รอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากากรขายสินค้าและ การให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา 1 สําหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 530) แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 583) และ พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 603) ไม่เกิน 300,000
เกิน 300,000 แต่ไม่เกิน 3,000,000
เกิน 3,000,000 ขึ้นไป
ยกเว้น 15
20
  (2.2) กิจการนําเข้าส่งออกที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงพลังงานให้ค้าน้ํามัน เชื้อเพลิง ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 426) ทั้งจำนวน 10
  (2.3) กิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 518) ทั้งจำนวน 15
  (2.4) กิจการสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค (ROH) ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 405) แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 508) และ พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 535) ทั้งจำนวน 10
  (2.5) กิจการสํานักงานใหญ่ข้ามประเทศ (IHQ) ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 586) ทั้งจำนวน 10
  (2.6) กิจการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 624) ทั้งจำนวน 3
  (2.7) กิจการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 591) ทั้งจำนวน 10
  (2.8) กิจการอื่นที่มิได้ระบุไว้ใน (2.1)-(2.7) ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด  
3 กรณีได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากรให้เสียภาษีจากยอดรายรับก่อนหักรายจ่าย ให้เสียภาษีร้อยละ 5 ของยอดรายรับ    
4 กรณีประกอบกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมาย เช่น กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน กิจการขนส่งสินค้าทางทะเล ระหว่างประเทศ ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 314) กิจการวิสาหกิจเพื่อสังคม ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 621) กิจการส่งเสริมผู้ประกอบการราย ใหม่ (New Start-up) ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 602) และ (ฉบับที่ 637) กิจการระหว่างประเทศ (ITC) ตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 587) กิจการส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ (New Start-up) ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 627) และกิจการอื่นที่มิได้ระบุ    
  1. หากถึงกําหนดยื่นแบบแสดงรายการ และไม่ได้ยื่นแบบตามกําหนด หรือ ยื่นล่าช้า
    4.1 กรณีมีภาษีต้องเสีย ผู้ประกอบการจะต้องรับผิด ในการเสียเงินเพิ่มจากภาษีที่ต้องชําระอีกร้อยละ 20 4.2 กรณีไม่มีภาษีต้องเสีย ผู้ประกอบการจะต้องระวางโทษปรับ ในอัตราค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท เว้นแต่จะ แสดงว่าได้มีเหตุสุดวิสัย
  1. กรณียื่นแบบและชําระภาษีจากประมาณการกําไรสุทธิ แล้วแสดงประมาณการกําไรสุทธิ ขาดเกินร้อยละ 25 ของกําไรสุทธิ จะต้องปฏิบัติอย่างไร
    กรณียื่นแบบและชําระภาษีจากประมาณการกําไรสุทธิ แล้วแสดงประมาณการกําไรสุทธิ ขาดเกินร้อยละ 25 ของ กําไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นโดยไม่มีเหตุผลอันควร กิจการจะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีเพิ่มเติม โดย จะมีความรับผิดที่ต้องเสีย ดังนี้
    5.1 กรณียื่นแบบและชําระภาษีจากประมาณการกําไรสุทธิ แล้วแสดงประมาณการกําไรสุทธิ ขาดเกินร้อยละ 25 ของกําไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นโดยไม่มีเหตุผลอันควร ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของภาษีที่ชําระไว้ขาด
    5.2 กรณียื่นแบบและชําระภาษีจากกําไรสุทธิจริง แล้วแสดงรายการและชําระภาษีไม่ถูกต้องโดยไม่มีเหตุอันควร ทําให้ชําระภาษีขาดไป ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของภาษีที่ชําระไว้ขาด
    5.3 กรณีบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการ โดยไม่ได้รับ คําเตือน หรือค่าเรียกตรวจสอบไต่สวน โดยตรงเป็นหนังสือ ให้กิจการสามารถลดเงินเพิ่มได้ แต่ต้องเสียในอัตราและตามเงื่อนไข
    ดังต่อไปนี้
    (ก) ถ้าชําระภายใน 2 วัน นับแต่วันพ้นกําหนดเวลายื่นรายการ ให้เสียร้อยละ 0.10 ของเงินภาษี ที่ต้องชําระ (ข) ถ้าชําระภายหลัง 2 วัน แต่ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันพ้นกําหนดเวลายื่นรายการ ให้เสียร้อยละ 0.50 ของเงินภาษี ที่ต้องชำระ

*** หากได้มีการประมาณการกําไรสุทธิ ขาดไปเกินกว่า 25% ของกําไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี กิจการ จะต้องเสียเงินเพิ่มตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ตามอัตราที่กําหนดข้างต้น ของจํานวนเงินภาษีที่จะต้องชําระ จากประมาณการกําไรสุทธิขาดไป แต่ก็ยังมีข้อผ่อนปรนกรณียื่นประมาณการกําไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% หากมีเหตุอัน สมควรตามที่กรมสรรพากรได้กําหนดไว้ กิจการก็ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 20% หรือหากได้ประมาณการกําไรสุทธิขาดไปเกิน กว่า 25% โดยไม่เข้าข่ายเหตุอันสมควร กฎหมายก็ได้มีทางออก ที่จะทําให้กิจการไม่ต้องเสียเงินเพิ่มถึง 20% หากเข้า หลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกําหนด

  1. เหตุอันควรที่กรมสรรพากรยอมรับ กรณีกิจการได้มีการประมาณการกําไรสุทธิ ตามแบบ ภงด.51 ขาดเกินไป กว่า 25% แต่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 20% สรุปได้ดังนี้
    หลักทรัพย์
    6.1 เสียภาษีไว้ไม่น้อยกว่า ครึ่งหนึ่ง ของภาษีที่ชําระตามแบบ ภงด. 50 ของรอบระยะเวลาบัญชีในปีที่ผ่านมา 6.2 อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดปกติ
    6.3 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมลดต่ําลง ทําให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยต่ําลงตาม
    6.4 ค่าใช้จ่ายลดต่ําลง
    เนื่องจากกิจการได้มีการปรับปรุงการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพขึ้น
    6.5 การส่งสินค้าออกมีความไม่แน่นอน ทั้งปริมาณและราคาสินค้า
    6.6 ปริมาณและราคาของสินค้าที่ขายเพิ่มสูงขึ้นเกินความคาดหมาย
    6.7 การรับค่าจ้างที่มีค่าจ้างไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างและความยากง่ายของงานที่ทํา
    6.8 มีกําไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อย่างผิดปกติ ในกรณีที่บริษัทไม่ได้ประกอบกิจการ

7. การคํานวณประมาณการกําไรสุทธิขาดเกินไปร้อยละ 25 คํานวณอย่างไร

               ถ้าผลลัพธ์ที่ได้มากกว่า 25 หมายความว่า ได้ประมาณการกําไรสุทธิขาดเกินไป กิจการต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภาษี ภงด. 51 (ยื่นเพิ่มเติม) โดยยื่นภาษีที่ยื่นขาดไป และเงินเพิ่มตามอัตราที่กฎหมายกําหนด และนําส่ง ณ สํานักงาน สรรพากรที่สถานประกอบการตั้งอยู่
ตัวอย่าง 1 กิจการประมาณการกําไรสุทธิไว้ 200,000 บาท ได้ยื่นแบบแสดงรายการ ภงด. 51 ไว้ 20,000 บาท (สมมติ กิจการต้องเสียภาษีในอัตรา 20%) ต่อมาในปลายปี กิจการได้มีการปิดรอบระยะเวลาบัญชี ปรากฏว่ามีกําไรสุทธิ 250,000 บาท

การคํานวณตามสูตรข้างต้น ดังนี้

จะได้ผลลัพธ์ เท่ากับ 20 ดังนั้น แสดงว่าประมาณการกําไรสุทธิขาดไปไม่เกินกว่าร้อยละ 25
ตัวอย่าง 2 กิจการประมาณการกําไรสุทธิไว้ 200,000 บาท ได้ยื่นแบบแสดงรายการ ภงด. 51 ไว้ 20,000 บาท (สมมติ กิจการต้องเสียภาษีในอัตรา 20%) ต่อมาในปลายปี กิจการได้มีการปิดรอบระยะเวลาบัญชี ปรากฏว่ามีกําไรสุทธิ 270,000 บาท


การคํานวณตามสูตรข้างต้น ดังนี้

จะได้ผลลัพธ์ เท่ากับ 25.93 ดังนั้น แสดงว่าประมาณการกําไรสุทธิขาดไปเกินกว่าร้อยละ 25 ซึ่งกิจการจะต้องยื่นแบบแสดง รายการภาษี ภงด.51 (ยื่นเพิ่มเติม) โดยยื่นภาษีที่ยื่นขาดไป ดังการคํานวณตามท้ายนี้

ประมาณการกําไรสุทธิตาม ภงด. 51 200,000.00 บาท
กึ่งหนึ่งของประมาณการกําไรสุทธิ100,000.00 บาท
คํานวณภาษี (100,000.00 x 20/100) (ภงด.51) 20,000.00 บาท
กําไรสุทธิตาม ภงด. 50 270,000.00 บาท
กึ่งหนึ่งของกําไรสุทธิ135,000.00 บาท
คํานวณภาษี (135,000.00 x 20/100)27,000.00 บาท
ภาษีที่ยื่นขาดไป (27,000.00 – 20,000.00)7,000.00 บาท
เงินเพิ่ม 20% ของภาษีที่ชําระขาดไป (7,000.00 x 20%) 1,400.00 บาท
  1. กรณีที่ยื่นแบบแสดงรายการ ภงด. 51 มีการเสียภาษี แต่ผลประกอบการเมื่อวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ปรากฏ ว่ากิจการมีผลประกอบการขาดทุน
    ในกรณีดังกล่าว เมื่อกิจการมีการประมาณการว่าจะมีกําไรสุทธิ แต่เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ปรากฏว่ากิจการมี ผลประกอบการขาดทุน กิจการไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่ประการใด และหากกิจการมีความประสงค์ที่จะขอคืนเงินภาษีดังกล่าว ในแบบแสดงการเสียภาษี ภงด. 50 ให้แสดงความจํานงค์ในการขอเงินภาษีที่ยื่นเกินไปคืนได้ ทั้งนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่าย ล่วงหน้า ดังกล่าว หากกิจการมีความประสงค์ที่จะขอคืนภาษี จะต้องทําเรื่องขอคืนแบบปีต่อปี ไม่มีการยกยอดไปในปีต่อไป
    ซึ่งสิ่งที่เจ้าของกิจการทุกท่านต้องควรระวัง คือ การเสียภาษีให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกําหนด และต้องมั่นใจว่าการจัดทํา บัญชีของกิจการ ถูกต้องตามหลักบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป และตามประมวลรัษฎากร

*** หากกิจการไม่มีความประสงค์จะขอคืนเงินภาษีดังกล่าว ในปีถัดไป ก็ต้องตัดเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามทางภาษี
และนํามาบวกกลับในการคํานวณกําไร (ขาดทุน) สุทธิทางภาษีอากร

บทความอื่นๆเพิ่มเติม

ตำแหน่งกรรมการบริษัท ในแต่ละบริษัทจำกัด จะมีกรรมการหนึ่งคน หรือหลายคนก็ได้ เนื่องด้วยบริษัทจำกัด เป็นบุคคล
ในการทำธุรกิจหลายๆ บริษัทฯ มักจะมีการส่งเสริมการขายโดยการสร้างเงื่อนไขการขายให้กับลูกค้า ถ้าทำยอดได้ถึงเป้าหมายก็จะได้เป็นทองคำ หรือ ของรางวัลอื่นๆ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลากหลายบริษัทฯ จะมีการจัดงานรื่นเริงเพื่อร่วมเฉลิมฉลองการส่งท้ายปีเก่า

สนใจติดต่อเรา